14 มิถุนายน 2567 - เนลลี่ คอร์ด้า โปรกอล์ฟสาวชาวอเมริกัน หวังคว้าแชมป์สร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ที่สนามเซนต์แอนดรูวส์ ประเทศสกอตแลนด์ ในเดือนสิงหาคมนี้ หลังโชว์ฟอร์มกระหึ่มวงการกอล์ฟโลก คว้าแชมป์ 5 รายการติดต่อกันในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเมษายน รวมถึงแชมป์รายการเชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ โทรฟี่เมเจอร์รายการที่สองของเธอ
หลังจากทำสถิติคว้าแชมป์ติดต่อกันมากที่สุดในศึกแอลพีจีเอทัวร์ เท่ากับแนนซี่ โลเปซ และแอนนิก้า โซเรนสตัม คอร์ด้ามาได้อีกแชมป์จากรายการมิซูโน อเมริกาส์ โอเพน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เธอทำสถิติสุดหรู ครองแชมป์ 6 รายการ จากการลงเล่น 7 รายการ
จากผลงานที่ยอดเยี่ยม มีหลายคนฟันธงว่าโปรกอล์ฟมือหนึ่งของโลกจะทาบสถิติหรือทุบสถิติของ มิคกี้ ไวท์ ที่คว้า 13 แชมป์ในหนึ่งฤดูกาลในปี 1963 และเจ้าตัวก็มองว่า การคว้าแชมป์ที่เซนต์แอนดรูวส์ในช่วงซัมเมอร์ จะทำช่วยเติมเต็มความพิเศษของฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์ในปีนี้สำหรับเธอ
คอร์ด้าเคยมาที่เซนต์แอนดรูวส์ แต่ไม่เคยลงเล่นที่สนามโอลด์ คอร์ส และตั้งเป้าคว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เอไอจี วีเมส์ โอเพ่น ระหว่างวันที่ 21-25 สิงหาคมนี้ โดยเธอกล่าวว่า “สำหรับนักกอล์ฟคนหนึ่ง ไม่มีเกียรติยศใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ และหากทำได้ที่เซนต์แอนดรูวส์ ซึ่งเป็นโฮมออฟกอล์ฟที่มีประวัติศาสตร์มากมาย จะเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ”
โดยถือเป็นครั้งที่ 3 ที่กอล์ฟเมเจอร์รายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น จัดแข่งขันที่โอลด์ คอร์ส และแม้ว่าคอร์ด้าเคยสัมผัสสนามลิงค์คอร์ส อีกฝั่งหนึ่งในอังกฤษ แต่เธอเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับความท้าท้ายที่พิเศษ โดยกล่าวต่ออีกว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการลงแข่งขันรายการเมเจอร์ที่เซนต์แอนดรูว์ส ซึ่งฉันไม่เคยลงเล่นที่สนามแห่งนี้มาก่อน ตอนที่ลงเล่นที่สนามคิงส์บานส์ ในฐานะรุกกี้ของแอลพีจีเอทัวร์ เราพักที่เซนต์แอนดรูวส์ และฉันต้องเดินไปตามหลุม 18 และข้ามสะพานหินแห่งประวัติศาสต์ สวิลแคนบริดจ์ แต่นั่นก็ได้เพียงแค่เดินชมเฉยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นมากกับการแข่งขันครั้งนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เราลงแข่งที่โฮล์มออฟกอล์ฟ จึงหวังว่าจะเป็นสัปดาห์ที่สุดแสนวิเศษ มีประวัติศาสตร์มากมายที่เซนต์แอนดรูว์ส และฉันก็หวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นเมื่อลงสนามแข่งขัน”
สำหรับคอร์ด้า ได้รับการยกย่องจากคนรอบข้างที่มองว่าเธอช่วยดึงดูดผู้คนให้หันมาสนใจกีฬากอล์ฟมากขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนพัฒนาตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จตามที่ฝัน โดยจอร์เจีย ฮอลล์ โปรกอล์ฟจากอังกฤษ กล่าวถึงคอร์ด้า ว่า “ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่เมื่อดูจากผลงานของเธอในช่วงครึ่งปีแรกของฤดูกาลนี้มันว้าวมากเลย และหากเป็นฉัน ก็อยากจะคว้าแชมป์มากขึ้นไปอีก”
ฮอลล์ คว้าแชมป์เมเจอร์รายการบริติช วีเมนส์ โอเพ่น ที่สนามเซนต์ ลีแธม แอนด์ เซนต์ แอนส์ ในปี 2018 ซึ่งถือเป็นฝันที่เป็นจริงสำหรับเธอ และหวังว่าจะทำได้อีกในการแข่งขันที่เซนต์แอนดรูว์ส โดยกล่าวเสริมว่า “นั่นคือสิ่งเดียวนอกเหนือการคว้าแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกของฉัน ซึ่งฉันไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเล่นที่เซนต์แอนดรูว์สอีกเมื่อไหร่หลังจากครั้งนี้”
สำหรับกอล์ฟรายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น เป็นการแข่งขันที่มีความท้าทายของสนามและความบันเทิง ซึ่งทางด้าน อาร์แอนด์เอ ผู้ดูแลจัดการแข่งขันจัดโครงการ ‘Kids go Free’ ในวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมและรับชมการแข่งขัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าชมฟรีเมื่อมากับผู้ปกครอง
นอกจากนี้ บัตรเข้าชมแบบ Hospitality ซึ่งรวมบริการเลาจ์อาหารและกิจกรรมต่างๆ ยังมีจำหน่ายทั่วไป ซึ่งแฟนกีฬากอล์ฟจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่สุดประทับใจกับบรรยากาศการแข่งขันของเหล่าโปรกอล์ฟชั้นนำระดับโลกและกิจกรรมต้อนรับแบบครบวงจร นานกว่า10 ชั่วโมง
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของการแข่งขันเอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ได้ที่เว็บไซต์ www.aigwomensopen.com
จากผลงานที่ยอดเยี่ยม มีหลายคนฟันธงว่าโปรกอล์ฟมือหนึ่งของโลกจะทาบสถิติหรือทุบสถิติของ มิคกี้ ไวท์ ที่คว้า 13 แชมป์ในหนึ่งฤดูกาลในปี 1963 และเจ้าตัวก็มองว่า การคว้าแชมป์ที่เซนต์แอนดรูวส์ในช่วงซัมเมอร์ จะทำช่วยเติมเต็มความพิเศษของฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์ในปีนี้สำหรับเธอ
คอร์ด้าเคยมาที่เซนต์แอนดรูวส์ แต่ไม่เคยลงเล่นที่สนามโอลด์ คอร์ส และตั้งเป้าคว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เอไอจี วีเมส์ โอเพ่น ระหว่างวันที่ 21-25 สิงหาคมนี้ โดยเธอกล่าวว่า “สำหรับนักกอล์ฟคนหนึ่ง ไม่มีเกียรติยศใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ และหากทำได้ที่เซนต์แอนดรูวส์ ซึ่งเป็นโฮมออฟกอล์ฟที่มีประวัติศาสตร์มากมาย จะเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ”
โดยถือเป็นครั้งที่ 3 ที่กอล์ฟเมเจอร์รายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น จัดแข่งขันที่โอลด์ คอร์ส และแม้ว่าคอร์ด้าเคยสัมผัสสนามลิงค์คอร์ส อีกฝั่งหนึ่งในอังกฤษ แต่เธอเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับความท้าท้ายที่พิเศษ โดยกล่าวต่ออีกว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการลงแข่งขันรายการเมเจอร์ที่เซนต์แอนดรูว์ส ซึ่งฉันไม่เคยลงเล่นที่สนามแห่งนี้มาก่อน ตอนที่ลงเล่นที่สนามคิงส์บานส์ ในฐานะรุกกี้ของแอลพีจีเอทัวร์ เราพักที่เซนต์แอนดรูวส์ และฉันต้องเดินไปตามหลุม 18 และข้ามสะพานหินแห่งประวัติศาสต์ สวิลแคนบริดจ์ แต่นั่นก็ได้เพียงแค่เดินชมเฉยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นมากกับการแข่งขันครั้งนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เราลงแข่งที่โฮล์มออฟกอล์ฟ จึงหวังว่าจะเป็นสัปดาห์ที่สุดแสนวิเศษ มีประวัติศาสตร์มากมายที่เซนต์แอนดรูว์ส และฉันก็หวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นเมื่อลงสนามแข่งขัน”
สำหรับคอร์ด้า ได้รับการยกย่องจากคนรอบข้างที่มองว่าเธอช่วยดึงดูดผู้คนให้หันมาสนใจกีฬากอล์ฟมากขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนพัฒนาตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จตามที่ฝัน โดยจอร์เจีย ฮอลล์ โปรกอล์ฟจากอังกฤษ กล่าวถึงคอร์ด้า ว่า “ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่เมื่อดูจากผลงานของเธอในช่วงครึ่งปีแรกของฤดูกาลนี้มันว้าวมากเลย และหากเป็นฉัน ก็อยากจะคว้าแชมป์มากขึ้นไปอีก”
ฮอลล์ คว้าแชมป์เมเจอร์รายการบริติช วีเมนส์ โอเพ่น ที่สนามเซนต์ ลีแธม แอนด์ เซนต์ แอนส์ ในปี 2018 ซึ่งถือเป็นฝันที่เป็นจริงสำหรับเธอ และหวังว่าจะทำได้อีกในการแข่งขันที่เซนต์แอนดรูว์ส โดยกล่าวเสริมว่า “นั่นคือสิ่งเดียวนอกเหนือการคว้าแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกของฉัน ซึ่งฉันไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเล่นที่เซนต์แอนดรูว์สอีกเมื่อไหร่หลังจากครั้งนี้”
สำหรับกอล์ฟรายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น เป็นการแข่งขันที่มีความท้าทายของสนามและความบันเทิง ซึ่งทางด้าน อาร์แอนด์เอ ผู้ดูแลจัดการแข่งขันจัดโครงการ ‘Kids go Free’ ในวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมและรับชมการแข่งขัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าชมฟรีเมื่อมากับผู้ปกครอง
นอกจากนี้ บัตรเข้าชมแบบ Hospitality ซึ่งรวมบริการเลาจ์อาหารและกิจกรรมต่างๆ ยังมีจำหน่ายทั่วไป ซึ่งแฟนกีฬากอล์ฟจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่สุดประทับใจกับบรรยากาศการแข่งขันของเหล่าโปรกอล์ฟชั้นนำระดับโลกและกิจกรรมต้อนรับแบบครบวงจร นานกว่า10 ชั่วโมง
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของการแข่งขันเอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ได้ที่เว็บไซต์ www.aigwomensopen.com
No comments:
Post a Comment