วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่ อาคาร อเนกประสงค์ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถนนวิภาวดีรังสิต สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม The Publisher ร่วมกับกองดุริยางค์กองบัญชาการกองทัพไทย จัดกิจกรรมแสดงดนตรีและเสวนาหัวข้อ " ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน " เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ในราชวงศ์จักรี ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีไทย-สากล ผ่านแต่ละยุคสมัยลุล่วงจนถึงปัจจุบัน
โดยกิจกรรมแสดงดนตรีและเสวนาหัวข้อ " ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน " ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ ประจำสาขาวิชาสถิติประยุกต์ คณะสถิติประยุกต์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในการค้นคว้ารวบรวมข้อมูลและร่วมเสวนาเรื่อง "ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน " กับบุคคลวงการบันเทิง และดนตรี ได้แก่ นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง, สุเมธ องอาจ, ประกาษิต โบสุวรรณ ในนามสุเมธ แอนด์ เดอะปั๋ง และ ผศ. ดร. สุรพงษ์ บ้านไกรทอง อาจารย์ประจำภาควิชาดนตรีไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มาร่วมเทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพ
บรรยากาศภายในงานได้รับความสนใจจากประชาชนมาร่วมรับฟังผลงานพระราชนิพนธ์ ทั้งกาพย์-เสภา ดนตรีไทย ที่บรรเลงโดยวงดนตรีไทย จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และบทเพลงพระราชนิพนธ์ อัญเชิญโดยวงดุริยางค์กองทัพไทย ซึ่งยังได้ หรั่ง-ชัชชัย สุขาวดี มาร่วมเป็นนักร้องรับเชิญ รวมถึง พลตรี วันชนะ สวัสดี มาร่วมสร้างสีสัน
ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ เปิดเผยว่า หัวข้อเสวนา บทเพลงของพระเจ้าแผ่นดิน นอกจากประวัติที่มาบทเพลงและดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน ที่นำมาเทิดพระเกียรติ ยังมีการกล่าวถึงเครื่องทรงดนตรีของพระเจ้าแผ่นดินในแต่ละพระองค์ที่ทรงพระราชนิพนธ์ แล้วถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ด้านใดบ้างในพระราชกรณียกิจ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ทัศนคติจากผู้มีความรู้ทางดนตรีและนักวิชาการ เสมือนเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถทรงมีจินตนาการสร้างสรรค์ที่ไม่ซ้ำแบบผู้ใด และแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา
ผศ.ดร.สุรพงษ์ บ้านไกรทอง เปิดเผยว่า พระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระมหากษัตริย์ไทย ที่เห็นเป็นตัวอย่างเด่นชัด คือ เพลงพระราชนิพนธ์ "มหาจุฬาลงกรณ์" บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 บทแรก ที่พระราชทาน
เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยนั้น แสดงถึงพระปรีชาสามารถ ในจินตนาการสร้างสรรค์นี้ ทรงใช้ระบบการประพันธ์แบบสิบสองเสียง ซึ่งเป็นประเพณีที่นิยมกันทางตะวันตก เพราะถือว่าสามารถสร้างสีสันของเสียงดนตรีได้มากมาย
โดยการใส่คอร์ดต่าง ๆ อย่างสลับซับซ้อน และสามารถจำได้ยากจึงทรงเลือกประพันธ์ทำนองเพลงใหม่โดยใช้ระบบห้าเสียง ซึ่งเป็นระดับเสียงที่เรียบง่าย และมักจะพบในทำนองเพลงพื้นบ้านเป็นการพิสูจน์ว่า แม้ระบบบันไดเสียงที่เรียบง่ายก็อาจประพันธ์ทำนองให้ไพเราะได้ ทรงเรียบเรียงทำนองเพลงที่จำได้ง่ายแต่มีระเบียบและมีความสมดุลกันเป็นอย่างดี ด้วยระบบบันไดเสียงที่เรียบง่ายและด้วยลีลามาร์ชที่หนักแน่น
ดังนั้นเมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกราบบังคมทูลขอพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัย จึงได้พระราชทานทำนองเพลงนี้ และให้ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้ประพันธ์คำร้อง "มหาจุฬาลงกรณ์" จึงเป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยที่มีท่วงทำนองงามสง่า มีจังหวะหนักแน่น มีความศักดิ์สิทธิ์สมเป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของชาติ ซึ่งมีกำเนิดจากพระราชดำริของสมเด็จพระปิยมหาราช องค์สมเด็จพระอัยยกาธิราชในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
กิจกรรมดนตรี และเสวนาวิชาการ ในงานนี้ยังมี บูธกิจกรรม Street Art King Bhumibol , บูธสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ จำหน่ายหนังสือ สถาบันกษัตริย์ ความจริงที่ถูกบิดเบือน และ หนังสือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ความจริงที่ถูกบิดเบือน , หนังสือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ , บูธ2475และบูธซื่อสัตย์เพื่อชาติ สนับสนุนเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งงาน โดย อเมซอน และน้ำแร่มองต์เฟลอ , ของที่ระลึกวิทยากรสนับสนุนโดย บริษัทสหพัฒน์พิบูลย์ จำกัด (มหาชน)
ก่อนที่ผู้ร่วมงานทั้งหมดจะร่วมเทิดพระเกียรติขับร้องเพลง " ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป " ร่วมกันอย่างกึกก้อง
#ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน
#ThePublisher
#กองดุริยางค์กองบัญชาการกองทัพไทย
#StreetArtKingBhumibol
#สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์
ติดตามข่าวประชาสัมพันธ์
www.what-journal.com
No comments:
Post a Comment